ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2561

"อุทยานแห่งชาติผาเเต้ม...เมืองเเมนของผู้มาเยือน" (Land of paradise) #PhaTaemNationalPark #WelcometoThailand #Archaeology


               

      The world is a book and those who do not travel read only one page. เป็นถ้อยคำที่ St. Augustine ได้กล่าวไว้  หมายความว่า   “โลกเปรียบเสมือนหนังสือเล่มหนึ่ง และคนที่ไม่เคยออกเดินทาง ก็เหมือนอ่านหนังสือเพียงหน้าเดียว”   วันนี้ K. ทักทายคุณผู้อ่านด้วยคำคมดี ที่ K. เองก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะช่วยกระตุ้นให้คุณผู้อ่านอยากที่จะเก็บกระเป๋า...แล้วก้าวเท้าออกเดินทางไปยังสักที่บนโลกนี้ เพราะการเรียนรู้หรือการหาความรู้ ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในห้องเรียนเท่านั้น โลกใบนี้ของเรานี่แหละค่ะ ที่จะเป็นครูของเราได้ดีที่สุด  แต่เดี๋ยวก่อนนนนนนนนนน ถ้าคุณผู้อ่านยังคิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี  K. มีที่ที่หนึ่งมาแนะนำ รับรองว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามและมีเรื่องราวบางอย่างที่น่าสนใจมาก  ถ้าพร้อมแล้วเราไปทำความรู้จักกับสถานที่แห่งนี้กันเลยยย....



           ที่มา : https://sites.google.com/site/ubonnaruemon/pha-taem

 สถานที่ท่องเที่ยวที่
K. จะพาคุณผู้อ่านมาทำความรู้จักในวันนี้ก็คือ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม  ซึ่งคุณผู้อ่านสามารถที่จะไปชมธรรมชาติที่สวยงาม และท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ได้ในที่แห่งนี้  


 สภาพภูมิประเทศ              

           อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 74 ของประเทศไทย
มีเนื้อที่ประมาณ 340  ตารางกิโลเมตร 
โดยครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอโขงเจียม อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานีและมีพื้นที่ติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
         สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงต่ำสลับกันไปทั่วพื้นที่ ระดับความสูงของพื้นที่อยู่ระหว่าง 100-600  เมตรจากระดับน้ำทะเล 
    แนวเขตด้านทิศตะวันออกใช้เส้นแบ่งเขตแดน ประเทศและติดกับประเทศลาว ซึ่งมีแม่น้ำโขงเป็นแนวเขตโดยตลอด  ความยาวประมาณ 63 กิโลเมตร  สภาพพื้นที่โดยรวมเป็นลานหิน รอบแนวเขตถัดจากฝั่งแม่น้ำโขงจะเป็นหน้าผาสูงชัน มีภูผาที่สำคัญได้แก่ ภูผาขาม ภูผาเมย ภูผาเจ็ก ภูผาสร้อย ภูย่าแพะ ภูชะนะได ภูผานาทาม ภูโลง ภูปัง  ภูจันทร์แดง ภูหลวง ภูสมุย และภูกระบอ เป็นต้น




ผาแต้มในอดีต

            ในอดีตชาวบ้านท้องถิ่นที่ทำกินในบริเวณใกล้เคียงพื้นที่ป่าภูผา น้อยคนนักที่จะเดินทางเข้าไปในป่าดังกล่าว เนื่องจากมีความเชื่อว่า "ผาแต้ม" เป็นเขตต้องห้าม  ภูผาเหล่านี้มีความศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่าเป็นภูผาแห่งความตาย ใครล่วงล้ำเข้าไป มักมีอันเป็นไป อาจเจ็บไข้หรือเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ หลังจากนั้นไม่นาน ผาแต้ม ก็มีชื่อเสียงโด่งดังเมื่อคณะอาจารย์และนักศึกษาภาควิชามานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยศิลปากร มีการค้นพบภาพเขียนสีโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ อายุราว 3,000-4,000 ปี




ความสำคัญของสถานที่          

       สิ่งที่ทำให้คนไทยที่ไม่ใช่เพียงนักท่องเที่ยวรู้จักกับผาแต้ม คือ การที่ผาแต้มเป็นพื้นที่ที่ใช้อ้างอิงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นของประเทศไทย ดังจะได้ยินกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศในทุกเช้าอยู่เสมอว่าเวลาพระอาทิตย์ขึ้นวัดจากผาชะนะไดซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของอุทยาน จึงเป็นจุดที่มองเห็นพระอาทิตย์ก่อนใครในสยามประเทศ

         ด้านธรรมชาติที่นี่ยังอุดมด้วยป่าเต็งรังและป่าดิบแล้งจำนวนมาก  สลับกับลานหินกระจายอยู่ทั่วภูเขา รวมถึงหน้าผาหินที่บริเวณผาแต้ม  เมื่อมองดูจากแม่น้ำโขงด้านล่างจะเห็นเป็นหน้าผาสูงที่สวยงามตามธรรมชาติ  บริเวณด้านล่างของหน้าผามีภาพเขียนของสีก่อนประวัติศาสตร์ ปรากฏเรียงรายอยู่ตามผนังเป็นจำนวนมาก  เป็นภาพเขียนสีศิลปะถ้ำโบราณที่มีอายุเก่าแก่ และเป็นแหล่งที่พบมากที่สุดในประเทศไทยรวมถึงต่างประเทศด้วย  ซึ่งคงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การเก็บรักษา   จนได้มีการจัดตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม .. 2534 เป็นต้นมา


พื้นที่สำหรับท่องเที่ยว

ที่มา:http://www.vcharkarn.com/blog/98004?pid=9815&BlogPage_page=2
ที่มา:https://bigjiew.wordpress.com/2016/07/12/%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7-%E0%B8%8A%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7-%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99/

         

                 อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จะแบ่งพื้นที่สำหรับท่องเที่ยวออกเป็นหลายจุด เช่น

1.ภาพเขียนสี

            ผาแต้มเป็นหน้าผาสูงที่สวยงามตามธรรมชาติ บริเวณด้านล่างของหน้าผามีภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ปรากฏเรียงรายอยู่เป็นระยะ มีอายุไม่ต่ำกว่าสามพันถึงสี่พันปี ภาพเขียนสีเหล่านี้เป็นภาพเขียนสีที่ยาวที่สุดในประเทศไทยแบ่งเป็น 4 ประเภท คือ สัตว์ เครื่องมือเครื่องใช้ สัญลักษณ์ และคน   ภาพเขียนสีผาแต้มแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ
      1.1 กลุ่มภาพเขียนสีผาขาม มีทางเดินลงมาจากลานผาแต้มประมาณ 30 เมตร จากนั้นเป็นทางราบริมหน้าผาเดินไปอีก 400 เมตรจึงจะถึง ภาพค่อนข้างลบเลือนไปมากแล้ว เหลือเพียงร่องรอยคล้ายภาพก้างปลาและลายเส้นทึบหยักไปมาคล้ายคลื่นน้ำ

      1.2 กลุ่มภาพเขียนสีผาแต้ม จากผาขามเดินไปอีก 300 เมตร ก็จะถึง เป็นกลุ่มภาพเขียนสีที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีจำนวนมากกว่า 300 ภาพ เรียงรายเป็นแนวยาวถึง 180 เมตร มีภาพกลุ่มสัตว์ ช้าง ปลา วัว เต่า ภาพมือ เครื่องมือจับสัตว์น้ำ ภาพคน และภาพลวดลายเรขาคณิต บอกเล่าถึงพิธีกรรม ความเชื่อ วิถีชีวิตของมนุษย์ในยุคจับปลาและล่าสัตว์สมัยก่อนประวัติศาสตร์

       1.3 กลุ่มภาพเขียนสีผาหมอน มีภาพกลุ่มสัตว์ วัว ควาย ภาพคนถืออาวุธคล้ายธนู อยู่ในทุ่งหญ้าหรือนาข้าว ภาพมือ และภาพลวดลายเรขาคณิต สะท้อนถึงการเป็นแหล่งชุมชนเกษตรกรรมเพาะปลูกข้าวเก่าแก่ของโลก

       1.4 กลุ่มภาพเขียนสีผาหมอนน้อย มีภาพคนนุ่งกระโปรง ยืนเท้าเอว ลักษณะการวาดแบบกิ่งไม้ภาพสัญลักษณ์ ลวดลายเรขาคณิต และภาพฝ่ามือกระจายอยู่ทั่วไป


2. ภูผาขาม

      ผาขามเป็นผาหินทรายรูปหินตัดที่มีความสูง 260 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวมาชมพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครที่ผาแต้ม


3. ผาชะนะได 

         จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในสยาม และเป็นจุดที่ทางกรมอุตุนิยมวิทยาใช้เป็นจุดคำนวณเวลาพระอาทิตย์ขึ้น

4.  ทุ่งดอกไม้ป่าน้ำตกสร้อยสวรรค์          

        ตั้งอยู่บริเวณลานหินด้านบนของน้ำตกสร้อยสวรรค์ เป็นทุ่งดอกไม้ป่าบนลานหินจะบานเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว  คือ ปลายตุลาคม-ธันวาคมเท่านั้น โดยมีพื้นที่กว้างขวาง ดอกไม้ป่าบริเวณลานหินนี้เป็นต้นเล็ก ซึ่งมีทั้งดอกสร้อยสุวรรณา ดอกดุสิตา ดอกมณีเทวา ดอกทิพย์เกสร หญ้าวัว หยาดน้ำค้าง เป็นต้น


       เป็นยังไงกันบ้างคะ....คุณผู้อ่านสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่ K. นำมาฝากในวันนี้  ช่วยกระตุ้นให้คุณผู้อ่านอยากที่จะออกเดินทางหรือเปล่า ^-------^  นี่ก็เป็นเพียงจุดท่องเที่ยวบางจุดในพื้นที่ผาแต้มเท่านั้น  ที่จริงแล้วยังมีอีกหลายจุดที่น่าสนใจมาก คุณผู้อ่านสามารถหารายละเอียดได้จากคลิปวิดีโอที่ K. เตรียมมาให้ข้างล่างนี้เลยยย  หากถาม K. ว่า ทำไมถึงสนใจอุทยานแห่งชาติผาแต้มขอตอบโดยไม่มีความลังเลใด เลยค่ะว่าผาแต้มนั้น นอกจากจะมีความงดงามทางธรรมชาติแล้ว ความงดงามทางความคิดที่ถูกสร้างสรรค์โดยฝีมือคนสมัยก่อนก็สามารถพบได้ในที่แห่งนี้เช่นกัน”  สำหรับวันนี้ K. ก็ต้องขอตัวลาไปอีกเช่นเคย แล้วเจอกันในโพสต์หน้า รอดูนะคะว่า K. จะพาคุณผู้อ่านไปท่องโลกที่ไหนอีกกกกกก บายยยย


***ข้อมูลสำหรับผู้สนใจมาเที่ยวชม***
(Information for everyone that interest to visit here)

         ดินทางจากอำเภอโขงเจียมใช้ทางหลวงหมายเลข 2134 ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 2112 ถึง กิโลเมตรที่ 8 แล้วเลี้ยวขวาไปผาแต้มอีกราว 5 กิโลเมตร รวมระยะทางจากโขงเจียมประมาณ 18 กิโลเมตร

        สำหรับใครที่สนใจอยากเดินทางไปท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ก็สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ตู้ ปณ.5 ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี 34220 โทรศัพท์ 0 4531 8026, 0 4524 6332

           เวลาเปิดทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 .
           ที่อยู่ : ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี



อ้างอิง
        กระปุกทราเวล. (2554). ผาแต้ม ไปชมธรรมชาติ ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์.
                   ค้นเมื่อ 20 มีนาคม 2561 จาก https://travel.kapook.com/view25131.html


        ท่องเที่ยวไทย.com. (2561). อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี.
        
      ไปด้วยกัน.com. (2561). อุทยานแห่งชาติผาแต้ม. ค้นเมื่อ 20 มีนาคม 2561
                      จาก http://www.paiduaykan.com/76_province/Northeast/ubonratchathani/patam.html






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น